ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

นโยบายแท็บเลต : หลงทางหรือไม่กับการศึกษาไทย

                จากนโยบายแจกแท็บเลตให้เด็กป. 1 นั้น ผู้เขียนข้อแจกแจงเป็นข้อๆ ดังนี้
1. โครงการแจกแท็บเลตของรัฐบาลมีการวิเคราะห์ต้นทุนผลตอบแทนหรือไม่ รัฐบาลควรมีการทำวิจัยโดยดูว่ามีความคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหนกับการลงทุน ประโยชน์ทางตรงและทางอ้อม ต้นทุนทางตรงและทางอ้อม เป็นเท่าไหร่ วิเคราะห์ NPV (Net Present Value) แล้วมีค่าเป็นบวกหรือไม่ วิเคราะห์ IRR (Internal Rate of return) แล้วมากกว่า I (interest rate) หรือไม่ B/C Ratio มีค่ามากกว่า  1 หรือไม่ จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีงานวิจัยของรัฐบาลหรือนักวิชาการที่รองรับความคุ้มค่าของการลงทุนดังกล่าว การวิเคราะห์ต้นทุนผลตอบแทน (Cost-Benefit Analysis) นั้นมีความสำคัญมากเพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าในการลงทุน ประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนได้แก่ Enumerate (แสดงประโยชน์ทั้งตรงทางอ้อม และต้นทุนทางตรงทางอ้อม) , Evaluate (นำประโยชน์และต้นทุนมาคิดเป็นตัวเงิน), Discount Rate (คิดอัตราส่วนลดที่เหมาะสม) รายละเอียดของการวิเคราะห์ผู้เขียนจะไม่ขอพูดถึง แต่แค่อยากจะรู้ว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องกับโครงการมีการคำนวณและเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบหรือยัง ทำไมต้องเผยแพร่? เพราะคนในสังคมจะได้ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสมของโครงการ อย่างประเทศเนเธอร์แลนด์ที่คิดโครงการป้องกันน้ำท่วม โดยเลือกที่จะเปลี่ยนทางวิธีการทางวิศวะกรรมโดยการสร้างเขื่อน (Engineering Approach) มาเป็นวิธีสู้พลางถอยพลางหรือการอยู่ร่วมกับน้ำโดยการสร้างมารีนา (Managed Realignment) รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ก็มีการวิเคราะห์ต้นทุนผลตอบแทนและเผยแพร่ให้ประชาชนรู้ก่อนที่จะทำโครงการ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก สำหรับรัฐบาลที่ควรให้ความสำคัญ
2. การที่รัฐบาลแทรกแซงระบบนั้น ผลกระทบภายนอกเชิงบวก (Positive Externality)คืออะไร ใครคือบุคคลที่สามที่ได้รับประโยชน์ ประโยชน์ต่อสังคมคืออะไร  ต้องกล่าวก่อนว่าในทางเศรษฐศาสตร์นั้น หากมีผลกระทบภายนอกเชิงบวกหรือเชิงลบ การแทรกแซงของรัฐบาลสามารถทำได้เพื่อขับเคลื่อนตลาดให้เข้าสู่จุด Social Optimum ได้ แต่หากไม่มีผลกระทบภายนอกดังกล่าว การเข้าแทรกแซงของรัฐบาลจะทำให้ดุลยภาพของสังคมที่เดิมอยู่จุด Social Optimum อยู่แล้วนั้นเคลื่อนไป แล้วทำให้เกิดความไร้ประสิทธิภาพขึ้น จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีงานวิจัยของรัฐบาลหรือนักวิชาการที่รองรับว่าการแจกแท็บเลตมีผลกระทบภายนอกเชิงบวก เพราะฉะนั้นนโยบายนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะทำให้ดุลยภาพของสังคมแย่กว่าเดิม
3. มีคำกล่าวของ รมว. กระทรวงศึกษาที่น่าสนใจและเป็นประเด็นดังนี้
3.1 “แท็บเลตเป็นครูคนใหม่ของนักเรียนไทย” ผู้เขียนอยากถามว่าจำเป็นที่เด็กจะต้องมีครูคนใหม่หรือไม่ ทำไมไม่พัฒนาระบบการศึกษาที่มีอยู่เดิมให้ดีเสียก่อน มีงานวิจัยมากมายบอกว่าการขยายการศึกษาคุ้มค่าน้อยกว่าการปรับปรุงระบบเดิมให้ดีกว่าเดิม(Todaro) เรียกได้ว่า คุณภาพสำคัญกว่าจำนวน และหากแท็บเลตเป็นครูคนใหม่จริง เด็กนักเรียนจะต้องกราบไหว้หรือไม่
3.2 “แท็บเลตจะทำให้เด็กฉลาดขึ้น” งานวิจัยของนักวิชาการคนใดที่บอกว่าแท็บเลตมีผลต่อการเรียนรู้? เหตุใดแท็บเลตจึงมีความสำคัญมากกว่าหนังสือ ทุกวันนี้เด็กในชนบทยังขาดแคลนหนังสือเรียน ต้องยืมเรียน ทำไมการจัดหาหนังสือถึงมีความสำคัญน้อยกว่าการจัดหาแท็บเลตซึ่งดำเนินการเพียงไม่กี่เดือนก็เสร็จสิ้น
3.3 “แท็บเลตช่วยลดความเหลื่อมล้ำของการศึกษา” งานวิจัยของนักวิชาการคนใดที่บอกว่าแท็บเลตช่วยลดความเหลื่อมล้ำในมิติของการศึกษา? เป็นความจริงที่ความเหลื่อมล้ำมีหลายมิติ ทั้งในมิติของรายได้ การศึกษา และสุขภาพ การลดความเหลื่อมล้ำสามารถทำได้หลายวิธี วิธีแท็บเลตนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดหรือ? มีวิธีการอื่นอีกไหมที่จะลดความแตกต่างของการศึกษาอันเป็นปัญหาของการพัฒนาประเทศมาอย่างยาวนาน? การวิเคราะห์ cost-effectiveness ของรัฐบาลเกิดขึ้นหรือไม่? เพราะจะทำให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนในแง่ของค่าใช้จ่ายการดำเนินโครงการหลายโครงการเพื่อเปรียบเทียบกับประโยชน์ที่เหมือนกัน
3.4 “แท็บเลตช่วยให้เด็กวิเคราะห์เป็น แทนที่จะท่องจำ” ผู้เขียนมีความเห็นว่า ก่อนที่เด็กจะวิเคราะห์ได้ อย่างน้อยต้องมีอะไรในสมองอยู่บ้าง อย่างน้อยต้องจำ Main Idea ให้ได้ ถึงจะวิเคราะห์ให้ได้ว่าคืออะไร จริงอยู่ที่การท่องไปสอบแบบนกแก้วนกขุนทอง พอสอบเสร็จก็ลืม แต่หากไร้ซึ่งกระบวนการจำ แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถวิเคราะห์ได้ และอีกประเด็นคือ มีงานวิจัยชิ้นใดที่บอกว่าแท็บเลตช่วยให้เด็กวิเคราะห์เป็น หากเป็นไปตามคำกล่าวจริงทำให้ประเทศที่มั่งคั่งทางการศึกษาอย่างสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอังกฤษไม่มีงานวิจัยที่เกี่ยวกับแท็บเลตอยู่เลย
3.5 “หมากรุกในแท็บเลตช่วยให้วางแผนเป็นผู้เขียนเห็นด้วยว่าเกมหมากรุกไทยหรือจะหมากรุกประเทศอื่นก็ตามฝึกสมองให้เรามีการคิดเป็น วางแผนเป็น แต่ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน มีวิธีอื่นที่ประหยัดงบประมาณแผ่นดินมากกว่านี้อีกหรือไม่? หรือหมากรุกเป็นเพียงวิธีการเดียวที่จะทำให้เด็กคิดเป็น วางแผนเป็น เพราะฉะนั้นการทำ Cost-Effectiveness ของรัฐบาลนั้นสำคัญมากต่อการเลือกเนื้อหาในแท็บเลต
4. ปัญหาเรื่อง H.D.I.
                Human Development Index (H.D.I.) เป็นมาตรวัดสากลที่วัดการพัฒนาของประเทศโดยวัดสามด้านได้แก่ ด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยวัดจาก GDP (PPP) , ด้านการศึกษา ( course enrollment และ Adult Literacy rate), และด้านสุขภาพ (Life Expectancy) ทั้งนี้ H.D.I. ของประเทศไทยอยู่ในระดับกลางและประเทศถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา แต่สิ่งที่น่าสนใจคือค่า H.D.I. ของประเทศไทยลดน้อยลงทุกปี ซึ่งแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง พม่า และ ลาว ซึ่งมีค่า H.D.I. เพิ่มสูงขึ้นทุกปี เมื่อดูข้อมูลด้านรายได้ประชาชาติต่อหัว พบว่า รายได้ประชาชาติต่อหัวเพิ่มขึ้น สัดส่วนคนจนภายใต้เส้นความยากจนลดลง สองมาตรวัดนี้เป็นการวัดด้านเศรษฐกิจ แต่เมื่อเราพิจารณาดัชนีรวมในตัววัด H.D.I. พบว่าข้อมูลตรงข้าม แปลว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแต่ไร้ซึ่งการพัฒนา (Growth without Development) ดังนี้การให้ความสำคัญในด้านการศึกษา จะช่วยเพิ่มคะแนนของ H.D.I. และผยุงให้ชาติบ้านเมืองมีการพัฒนาไปพร้อมๆกับการเจริญเติบโต
                นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล Milton Friedman ได้กล่าวในงานวิจัยของเขาเองว่า การศึกษานั้นมีผลกระทบภายนอกเชิงบวก ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องแทรกแซงเพื่อทำให้สังคมเกิด Social Optimum อย่างไรก็ตาม การพยายามศึกษาแนวทางใหม่ๆอย่างแท็บเลตที่เอามาจากมาเลเซียและสิงคโปร์นั้น ก็นับว่ามีข้อดีในแง่ของความแปลกใหม่แต่เมื่อดูในระยะยาวแล้ว ประเทศชั้นนำทางการศึกษาอย่างประเทศสหรัฐอเมริกายังให้เด็กนักเรียนเรียนผ่าน Textbook อยู่ แล้วทำไม เราถึงไม่ปรับใช้วิธีการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกาให้เข้ากับบริบทของสังคมไทย ทำไมโครงการต่างๆของรัฐบาลถึงไม่มีงานวิจัยมารองรับความคุ้มค่าในแง่ของประโยชน์ทั้งทางตรงและทั้งอ้อมที่มีต่อบุคคลและสังคม บทความนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เขียนเพื่อตำหนิติติงแต่อย่างไร เพียงแต่ต้องการแสดงความคิดเห็นในฐานะประชาชนคนหนึ่งเท่านั้น หากรัฐบาลให้ความสำคัญกับการวิจัยมากกว่านี้ทั้งก่อนการตั้งนโยบายหาเสียงและในการปฏิบัติจริงหลังการเลือกตั้ง เชื่อแน่ว่าการเจริญเติบโตและการพัฒนาจะเกิดขึ้นพร้อมๆกัน และทำให้สังคมไทยก้าวไกลอย่างยั่งยืน

ที่มา คำกล่าวของรมว. กระทรวงศึกษาธิการ เรื่องแท็บเลต
www.matichon.co.th

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิวรถไฟความเร็วสูงปักกิ่ง-เซี้ยงไฮ้ ชั้น First Class: บทเรียนจากจีนสู่ไทย

วรรณพงษ์ ดุรงคเวโรจน์ อาจารย์ประจำภาควิชาเศรษฐศาสตร์การพัฒนา คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผมมีโอกาสได้ไปทำวิจัยเรื่องศักยภาพสินค้าไก่ระหว่างไทย-จีน ณ ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 9 - 14 พฤษภาคม 2560 และได้มีโอกาสนั่งรถไฟความเร็วสูง (High-speed Train/Bullet Train) เส้นทางปักกิ่ง (Beijing) ไปเซี้ยงไฮ้ (Shanghai) จึงมารีวิวและเขียนข้อเสนอแนะเพิ่มเติมครับ รถไฟความเร็วสูงของจีน (High-speed rail; HSR) บริหารโดยรัฐวิสาหกิจที่มีชื่อว่า China Railway Corporation (คงคล้ายๆ กับรฟท.ของไทย) ได้ชื่อว่ามีโครงข่ายที่ยาวที่สุดในโลก (เพราะอาณาเขตพื้นที่ของจีนนั้นยิ่งใหญ่มหาศาลเหลือเกิน) มีเส้นทางรวมกันกว่า 22,000 กิโลเมตร และมีโครงการที่ขยายเส้นทางให้ครอบคลุมถึง 38,000 กิโลเมตรในอนาคต รถไฟความเร็วสูงของจีนเริ่มต้นให้บริการในปี พ.ศ. 2550 โดยมียอดการใช้บริการมากกว่า 1 พันล้านคนต่อปี เส้นทางของรถไฟความเร็วสูงปักกิ่ง-เซี้ยงไฮ้อยู่ที่ 1,318 กิโลเมตร เทียบได้กับเชียงใหม่-สุราษฏร์ธานี โดยให้บริการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 (เริ่มสร้างในปี พ.ศ. 2551) โดยเส้นทางดังกล่าวถือเป็นเส้นทางที่สร้างกำไรให้กั

กนง. ลดอัตราดอกเบี้ย ดีหรือไม่?

Photo Source: http://www.dailynews.co.th สรุปสั้นๆ>> "กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ เหลือ 2.25 ธนาคารพาณิชย์ตอบรับด้วยการลดดอกเบี้ยทั้งฝากและกู้"  วิเคราะห์ >>  1. ดอกเบี้ย สามารถพิจารณาได้เป็น 2 อย่าง คือเป็นทั้งผลตอบแทน (Rewards) ของการฝากเงิน และเป็นต้นทุน (Cost) หรื อราคาของการกู้ ดังนัน หากลดอัตราดอกเบี้ยลง ย่อมจูงใจให้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจเข้ามา "กู้เงิน" มากยิ่งขึ้น 2. สำหรับภาคธุรกิจ กู้เพื่อนำไปลงทุนหรือขยายกิจการ ซื้อเทคโนโลยี การตลาด ต่างๆ นานา การลงทุนของเอกชนนี้ หากเป็นการขยายร้านหรือลงทุนทางกายภาพ จะ"ส่งผลต่อเนื่อง"ไปยังตลาดสินค้าและบริการรวมถึงตลาดแรงงาน นับเป็นผลทางบวก 3. สำหรับภาคครัวเรือน การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะเปิดโอกาสให้กู้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้มากขึ้น อย่างที่กล่าวว่าดอกเบี้ยคือราคาของการกู้ เมื่อราคาถูกลง ตามหลักอุปสงค์อุปทานพื้นฐาน ปริมาณเสนอซื้อหรือความต้องการซื้อหรือในที่นี่คือความต้องกู้ย่อมมากขึ้นเป็นธรรมดา อย่างไรก็ตามต้องมีการระวังในเรื่องของฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพราะวิกฤติฟองสบ

พม่า..ผืนแผ่นดินทอง

ข้อมูลพื้นฐานประเทศพม่า ประเทศพม่า (Burma  หรือ  Myanmar)  มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า" ( Republic of the Union of Myanmar ) เป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และคาบสมุทรอินโดจีน มีพรมแดนทางแผ่นดินติดต่อกับ 5 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย จีน บังคลาเทศ ลาว และไทย ทั้งนี้ พม่าเคยอยู่ภายใต้อาณานิยมของอังกฤษในช่วง พ.ศ. 2367-2485 และ 2488-2491 ด้วยพื้นที่ 261 , 789 ตารางไมล์ ( 678 , 034 ตารางกิโลเมตร ) แบ่งเป็นพื้นที่ทางบก 657,740 ตารางกิโลเมตร และพื้นที่ทางน้ำ 20,760 ตารางกิโลเมตร   อาณาเขต                  ทางฝั่งตะวันตกอยู่ติดกับบังกลาเทศ ทางเหนือติดกับอินเดียและจีน   ทางตะวันออกติดกับลาวและไทย ทางตอนใต้ของประเทศจะอยู่ติดกับอ่าวเบงกอลและทะเล  อันดามัน จังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับพม่า มี 10 จังหวัด คือ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพรและระนอง   การปกครอง แบ่งเป็น 7 ภาคได้แก่ เขตอิระวดี เขตมาแกว เขตมัณฑะเลย์ เขตพะโค ( หงสาวดี) เขตสะกาย เขตตะนาวศรี และเขตย่างกุ้ง และ 7 รัฐ ได้แก่ รัฐยะไข่ รั