ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ธันวาคม, 2016

หนังสือเล่มแรกในชีวิต "เจาะประเด็นเด่น เศรษฐกิจไทย"

จากที่ผมได้ทำบล็อคนี้ขึ้นมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ในระดับป.ตรี ที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตอนนั้นผมได้เรียนวิชา Public Finance อาจารย์ก็จะมี paper ให้ทำเป็นประจำ ด้วยความเสียดาย จึงอยากเผยแพร่เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับคนที่สนใจ แล้วก็พบว่าการทำบล็อคเนี่ยแหละ เหมาะสมที่สุด เพราะทำง่าย เข้าถึงง่าย และไม่เสียเงิน  กว่า 5 ปี มาแล้ว ที่ได้ทำบล็อค ด้วยความเป็นคนชอบเขียน ชอบอ่าน ตั้งแต่เด็กๆ อ่านทุกแนว ตั้งแต่นิยาย สารคดี ไปจนถึง how to พัฒนาตัวเองต่างๆ ความฝันสูงสุด นอกเหนือจากการเป็นนักเศรษฐศาสตร์ ทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ก็คือ การได้เห็นหนังสือของเรา วางขายในร้านหนังสือบ้าง  จนกระทั่งวันนี้ ผมได้ใช้วิชาความรู้ที่ได้เรียนมา บวกกับประสบการณ์การทำงานจากสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง และมหาวิทยาลัยรามคำแหง จัดทำหนังสือชื่อ "เจาะประเด็นเด่น เศรษฐกิจไทย" สำนักพิมพ์ซีเอ็ด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยในหลายๆ ด้าน โดยใช้ความรู้ทางเศรษฐศาสตร์เข้ามาช่วย  เนื้อหาแบ่งออกเป็น 13 บท ดังนี้ บทที่ 1 หนี้เกษตรกรไทย บทที่ 1 หนี้เกษตรกรและการแก้

นโยบายแจกเงิน 3,000 บาท จน-ไม่แจก แจก-คนไม่จน

"จน - ไม่แจก แจก - คนไม่จน" วรรณพงษ์ ดุรงคเวโรจน์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง Photo Source: http://www.abc.net.au/religion/articles/2014/02/10/3941760.htm                 จากการที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 เห็นชอบมาตรการการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยใช้งบประมาณ 12,750 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจ่ายให้กับกลุ่มคนจนในเมือง และเมื่อรวมกับมติครม. เมื่อ 27 กันยายน 2559 ที่อนุมัติงบ 6,540 ล้านบาท สำหรับแจกเกษตรกร รวม 2 โครงการ ใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 20,000 ล้านบาท                 สำหรับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินทั้งกลุ่มเกษตรกร และกลุ่มคนจนในเมือง พบว่ามีเกณฑ์เดียวกันคือ หากมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี รับเงิน 3,000 บาท และหากมีรายได้ตั้งแต่ 30,000 แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี รับเงิน 1,500 บาท นโยบายแจกเงินนี้ไม่ใช่นโยบายใหม่ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2552 ภายใต้รัฐบาลของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะก็ได้มีการแจกเงินเช่นเดียวกันในชื่อ "เช็คช่วยชาติ" จำนวน 2,000 บาท สำหรับ